ความงามทั้งภายในและภายนอก

ทำไมวิตามินอีถึงเป็นตัวพลิกเกมให้กับผิวของคุณ

โลกแห่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักจะมีส่วนผสมและสูตรใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเป็น 'ตัวพลิกเกมอย่างแท้จริง' อย่างไรก็ตาม ตัวพลิกเกมที่สร้างสรรค์ที่สุดก็ยังคงเป็นสิ่งที่มีมาตลอดอยู่แล้ว นั่นคือ วิตามินอี

เจ้าเพื่อนซี้ตัวเดิมที่คุ้นเคยในวงการความสวยความงาม เป็นส่วนผสมหลักของน้ำมันมะรุม และใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ กันมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้เลยว่าช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ปกป้องผิว

หลายๆ คนคงมีคำถามว่าจริงๆ แล้วเนี่ยวิตามินทำอะไรได้บ้าง? อ่านได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ เราได้อธิบายสาเหตุว่าทำไมสารอาหารนี้จึงดีต่อผิวของคุณ เตรียมจดแล้วจำ นำไปใช้ตอนทาออยล์ตัวน้อยของเราได้เลยนะคะ 

 

น้ํามันมะรุมวิตามินอี

ก่อนอื่นเลย: วิตามินอีคืออะไร?

วิตามินอี เป็นสารอาหารที่ละลายได้ในไขมัน พบได้ในอาหาร เช่น อะโวคาโด ฟักทอง และน้ำมันจากจมูกข้าวสาลี เป็นต้น รูปแบบของวิตามินอีที่มนุษย์สามารถเผาผลาญได้เรียกว่า Alpha-tocopherol และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายอันเกิดจากอนุมูลอิสระ

วิตามินอีช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบทำให้ร่างกายของคุณได้รับวิตามินที่จำเป็นอย่างเพียงพอในแต่ละวัน

ส่วนใหญ่วิตามินอีมักอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว พบได้ในรูปแบบน้ำมันหรือเนื้อครีม 

 

น้ํามันเมล็ดมะรุม

 

แล้วมีประโยชน์อะไรบ้าง?

เริ่มจากตรงไหนดี! วิตามินอีทำหน้าที่สำคัญต่อสุขภาพผิวหลายประการ และทั้งหมดก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรใช้วิตามินอีเป็นส่วนประกอบหลักของไอเท็มดูแลผิวประจำวันของคุณ 

 

  • กักเก็บความชุ่มชื้น วิตามินอีช่วยล็อคความชุ่มชื้นระหว่างเซลล์ผิวได้ยาวนานขึ้นถึง 16 ชั่วโมงเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นสารต่อต้านริ้วรอยชั้นดี
  • ช่วยปกป้องชั้นไขมันเคลือบผิว วิตามินอีช่วยรักษาเกราะป้องกันผิวให้คงอยู่ คงความสดใสของชั้นไขมันระหว่างผิว และเติมเต็มความชุ่มชื้นที่ผิวต้องการตลอดทั้งวัน
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี สารอาหารเพียงเล็กน้อยนี้ทำให้เส้นใยประสาทของชั้นผิวแข็งแรง หล่อเลี้ยงสารอาหารไปยังเซลล์ผิวหนัง กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อผิว และยับยั้งการเกิดออกซิเดชันของซีบัม (น้ำมัน) ที่ผิวของเราผลิตขึ้นมา ซึ่งช่วยป้องกันสิวหัวดำ
  • ช่วยเร่งสมานของผิว เนื่องจากวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีฤทธิ์ช่วยสมานผิวจากการถูกแดดเผา ผิวระคายเคือง และบาดแผลต่างๆ พร้อมทั้งยังช่วยเร่งทำให้แผลหายไวขึ้น อาที บาดแผลไฟไหม้และแผลเป็นอื่นๆ มากถึง 50%
  • เป็นสารต่อต้านมลภาวะ เนื้อออยล์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี จะช่วยปรับสภาพผิว ป้องกันผิวถูกทำลายจากมลภาวะของสิ่งแวดล้อม และสิ่งเร้าจากภายนอก
  • ป้องกันผิวจากผลเสียของรังสียูวี (อันตรายจากแสงแดด) เมื่อผสมเข้ากับวิตามินซี ที่พบมากในน้ำมันมะรุม เพื่อใช้ก่อนลงครีมกันแดด และอุดมด้วยวิตามินอีที่ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีกว่าครีมกันแดดถึง 4 เท่า

มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

หากใช้วิตามินอีในรูปแบบบริสุทธิ์ แคปซูล และทาโดยตรงลงบนผิว อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าอาจอุดตันรูขุมขน และอาจเป็นปัญหารุนแรงขึ้นสำหรับผู้ที่เป็นสิวง่ายหรือแพ้หนัก

วิตามินอีเป็นส่วนผสมที่ใส่มาร่วมกันในน้ำมันมะรุม อย่างไรก็ตาม วิตามินเป็นเพียงแค่การเพิ่มขั้นตอนการดูแลผิวให้สมดุล ปลอบประโลมอาการระคายเคือง และแห้ง, อีกทั้งยังเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่ต้องการเช่นกัน